เรื่อยเปื่อย…จากหาดใหญ่ ไป เขาชัน พัทลุง

หาเรื่องพาตัวเองเข้าไปใกล้ชิดธรรมชาติ สัมผัสบรรยากาศ ทะเลสาบสงขลา สู่ดินแดนประวัติศาสตร์ สโลแกนเค้าละ …

เขาชันรีสอร์ท ปากพะยูน จ.พัทลุง … ทริปนี้ก็มาใน Concept ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋ ไม่เหมือนใคร อีกครั้ง

แต่ก่อนจะเข้าสู่โหมดวิถีไทย แวะพักที่ตัวเมืองหาดใหญ่กันก่อนนะ พวกเราบินด้วย Thai Lion air (ช่วงนี้บินเจ้านี้บ่อย ดีตรงที่จ่ายด้วยบัตรเครดิตไม่ชาร์จ ดี๊ดี) บินลงที่หาดใหญ่ด้วยตั๋วโปรโมชั่นละฮะ มีฐานะ(ยากจน)อย่างเราคอยจับจ้องราคาตั๋วโปรที่มีมาเรื่อยๆ

ได้เวลาออกตระเวน กิน เที่ยว กันต่อ ไม่พลาดเมื่อมาหาดใหญ่ ต้องได้กินติ่มซำ เลือกร้าน โชคดีแต่เตี้ยม ร้านนี้ใช้หมูผลิตภัณฑ์จาก เบทาโกร BETAGRO สะอาดปลอดภัยแน่นอนค่ะ ^_^ เรามาถึงสายแล้วละ 9 โมง คนก็ยังเยอะรอคิวนอกร้าน แต่รอไม่นาน เพราะลูกค้าส่วนใหญ่มักกินเสร็จจะไม่นั่งแช่

ยิ้มสู้ ^^ กินไหวๆ

อิ่มแล้วๆ ออกมานอกร้านห้องแถวติดกันมีร้านขายผลิตภัณฑ์แฮนด์เมดที่ทำจากวัสดุอะลูมิเนียม ทองเหลือง ไอเดียออกแบบตามการใช้งาน ไม่ว่าจะงานครัว งานสวน ของแต่งร้าน หรือ ของแต่งบ้าน แปลกและสวยดีนะคะ

สามารถสั่งทำได้ด้วย

อุดหนุนมา 2 ชิ้น ตะเกียงวิเศษนี้ก็ด้วย เอาไว้ประดับบ้าน

ไปกันต่อ จุดหมาย เขาชันรีสอร์ท ที่ ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง นี่ก็หาไม่ยากอีกละ อิอิ Search ใน Google Map มาก่อน ถามว่าทำไมถึงเลือกมาเที่ยวที่นี่ ก็แค่หาที่เที่ยวสัมผัสธรรมชาติ ตั้งใจจะไปแถวบริเวณทะเลสาบสงขลา เปิดแผนที่ใน Google ดูว่ามีที่พักหรือรีสอร์ทไหนบ้าง เจอพิกัดเขาชันรีสอร์ท ปักหมุดที่เดียว แล้วหาข้อมูลและรูปภาพประกอบ ดูบรรยากาศโอเคได้ วิวพระอาทิตย์ตกสวยงาม ก็โทรจองไว้ก่อน

ขับรถจากหาดใหญ่ตามถนนหมายเลข 4 เพชรเกษม มุ่งไปอำเภอปากพะยูน ว่าจะแวะเดินเล่นและหามื้อเที่ยงกิน มาถึงก็เที่ยงกว่า ตลาดก็วายซะละ เดินเล่นชมตลาดสดแป๊บนึง

แอบถ่ายแม่ค้าหลับ แฮะๆ ขายอาหารทะเลสดๆ มีมะขามอ่อนและมะม่วงเบาด้วย ว่าจะแอบหยิบชิมซะหน่อย ฮาๆ

สารพัดปลาแดดเดียว

ปากพะยูนเป็นอำเภอเล็กๆ ของพัทลุง เงียบ สงบ และมีจุดเด่นบอกว่า ที่นี่ ปากพะยูน กับเจ้าปลาพะยูนเพื่อนซี้ 3 ตัวนี้ ตั้งเด่นสง่า ตัวกลมๆ น่ารักดีอ่า ^_^

ไปกันต่อ ขับรถไปเรื่อยเจอป้าย วิว หรือโฮมเสตย์อะไรน่าสนใจก็แวะ ข้ามไปเกาะนางคำ บรรยากาศแบบบ้านๆ สำรวจไว้ก่อนเผื่อทริปหน้าอยากมาอีก แล้วมุ่งไปหาเขาชันรีสอร์ทที่อยู่เกาะหมาก ตามถนนผ่านหมู่บ้านต่างๆ ก็มาถึงบ้านเขาชัน เจอแว้วววว เขาชันรีสอร์ทที่ตามหา ยินดีต้อนรับสู่ดินแดนประวัติศาสตร์ ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

คุณบัญญัติ หรือคุณหลุยส์ เจ้าของรีสอร์ท ออกมาต้อนรับด้วยความอบอุ่น และยังเล่าประวัติเรื่องราวความเป็นมาของเขาชันให้ฟัง ซึ่งเคยเป็นสถานที่ที่ รัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประภาสมาก่อน ต้อนรับด้วย Welcome Drink น้ำเก๊กฮวย ขนมพื้นบ้าน และผลไม้ เงาะ … ส่วนสะตอ นี้ไม่ใช่ Welcome Fruit นะฮะ แต่ให้หยิบกินกับอาหารในทุกมื้อได้ อิอิ

( ลืมถ่ายรูปคุณหลุยส์ประกอบให้เห็นภาพผู้ใหญ่อบอุ่น ^_^ )

ทางไปห้องพักพวกเรา จองไว้ห้องแอร์ติดทะเลสาป

ของตกแต่งในรีสอร์ทจะเป็นของเก่า พวกของใช้เก่าๆ

มีดนตรีไทยบรรเลงสดๆ ให้ฟัง ชิลๆ โดยชาวบ้านในหมู่บ้าน

แสงอ่อนๆ ตอนเย็น ถ่ายรูปเล่นระเบียงหลังห้องพัก


เดินเล่นในหมู่บ้าน แต่ดันเจอบ้านที่หมาดุ เจี๊ยก !@#$% รีบวิ่งหนีแทบไม่ทัน ฮาๆๆ

กลับมารีสอร์ทรอพระอาทิตย์ตกดิน

ยิ้มแป้น 🙂 รอพระอาทิตย์ตกดิน

ท่าเรือของรีสอร์ท

ขอบอกว่า แสงเย็นที่นี่สวยมาก เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยทีเดียว แสงสีส้ม ตัดกับท้องฟ้าสีฟ้า แต่การมาเห็นด้วยตาตัวเองสวยกว่า อิอิ

จากนั้นรอกินมื้อค่ำ ที่พักที่นี่จะไม่รวมอาหารค่ำ เช้า และค่าเรือออกไปเที่ยว เราต้องจ่ายแยก อาหารค่ำเราก็สั่งตามเมนูหรือสั่งปู ปลา กุ้ง ให้ปรุงแบบไหนเค้าจัดให้ได้ โดยจะเป็นฝีมือของชาวบ้านที่จ้างมาทำอาหาร ก็จะได้รสชาติแบบเข้าถึงอาหารพื้นบ้านจริงๆ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองรสชาติอาหารที่แท้จริง และชาวบ้านได้มีรายได้ด้วย ช่วยเหลือกันไป

มื้อค่ำนี้ เราสั่งปูเนื้อนึ่ง ปลากะพงเผา แกงส้ม น้ำพริกกะปิ ผักสด ส่วนต้มจืดแถมให้ค่ะ อร่อยเข้าถึงรสชาติแบบพื้นบ้านจริงๆ โดยเฉพาะน้ำพริกกะปิ แซ่ปเวอร์ มีเติมตลอด อิอิ ( นั่งเขียนไปด้วยยังน้ำลายไหลตามอ่า 555 )

อิ่มพุงกาง ตามด้วยผลไม้ มีเงาะ ที่วางไว้ให้กินได้ตลอด หลับสบาย zzzzzz ….

… ตื่นเช้ามา ขอออกไปวิ่งสูดอากาศบริสุทธิ์ซัก 3 กิโลเมตร เพื่อเบิร์นสิ่งที่กินไปเมื่อคืน แฮะๆ มาต่อด้วยอาหารเมื้อเช้า ABF แบบบ้านๆ อีกแล้วคับท่าน มาด้วยเมนู ไก่ย่าง ที่มีคนย่างให้กินแบบร้อนๆ ข้าวเหนียว ขนมครกสูตรดั้งเดิม นี่ก็ตั้งกระทะทำให้กินสดๆ ฟินอ่า แต่ลืมถ่ายรูปคนย่างไก่และทำขนมครกมา ห่วงกิน ฮาๆ

อิ่มแล้วก็เที่ยวกันต่อ นั่งเรือไปเที่ยวเกาะสี่เกาะห้า และเกาะกะ คิดราคาคนละ 200 บาท

นั่งเรือประมาณ 15 นาที ถึงเกาะสี่เกาะห้า ระหว่างทาง เจอรากต้นลำพูโผล่ขึ้นเหนือน้ำมากมาย

เกาะสี่เกาะห้า เกาะซึ่งถือว่ามีรังนกนางแอ่นที่มีคุณภาพมากที่สุดของประเทศ โดยบริษัทสยามรังนกทะเลใต้ ได้รับสัมปทานเก็บรังนกนางแอ่น

ประดิษฐานพระบรมรูปรัชกาลที่ 5

มีนักท่องเที่ยวอีกกลุ่ม ฟังไกด์บรรยายถึงที่มา

อุปกรณ์ในการเก็บรังนก

ตัวอย่างรังนกที่เก็บได้ จำไม่ได้แฮะว่ายังไง รู้แต่ว่า มีรังนกอ่อนด้วย เค้าพาเดินไปชมตรงปากถ้ำที่จะเข้าไปเก็บรังนก

จากนั้นไปต่อกันที่เกาะกะ นั่งเรือไปอีกประมาณ 15 นาที จากเกาะสี่เกาะห้า

กระชังจับปลา

ถึงแล้วท่าเรือเกาะกะ

ชมสิ่งมหัศจรรย์ตามธรรมชาติ สระกระจก

กระจกใสจริงๆ 🙂

เดินชมรอบเกาะ บริเวณเกาะกะ มีพื้นที่เล็ก สามารถเดินเที่ยวรอบเกาะประมาณ 1 ชั่วโมงได้ ส่วนมากจะเป็นโขด ซอก หิน หน้าผาเล็กๆ

รากไม้ใหญ่ ยาวตามโขดหิน

มีเจ้าแม่กวนอิมให้ไหว้สักการะ

บนเกาะกะ มีห้องน้ำบริการนักท่องเที่ยวตั้งเด่นสง่า ^_^

ได้เวลากลับรีสอร์ทเพื่อจะ Check out ละ วันนี้ฟ้าแจ่มมาก ก้อนเมฆรูปร่างแปลกสวยงาม

กลับขึ้นฝั่งที่รีสอร์ท เกือบจะเที่ยงพอดี เห็นอีกกลุ่มที่มาเป็นหมู่คณะเค้ามีอาหารกลางวันรอ แอบส่องดู อือฮื้อ … ขนมจีนน้ำยากะทิ และแกงไตปลา น้ำลายไหล > * * < รีบถามที่รีสอร์ท ว่าถ้าเราจะขอกินด้วยจะได้มั้ยและราคาเท่าไหร่ เค้าก็จัดให้เรากินได้อะ คิดราคาคนละ 90 บาท แถมขนมหวานให้ด้วย จัดไปกับสิ่งที่ตามหา มาถึงถิ่นต้องขนมจีนน้ำยากะทิ แกงไตปลา รสชาติดั้งเดิม แซ่ป จี้ด อร่อยๆ

ถึงเวลาต้องไปแล้วละ ชอบบรรยากาศที่นี่น่ะ ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ตามวิถีแบบชาวบ้าน สงบดีด้วย สนใจโทรสอบถามได้เลยคะ คุณหลุยส์เจ้าของรีสอร์ทเป็นกันเอง ดูแลเป็นอย่างดี

เขาชันรีสอร์ท หมู่ 7 ตำบลเกาะหมาก อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง โทร 08 9812 1276, 0 7460 8023

ระหว่างทางขับรถกลับเข้าตัวเมืองสงขลา ได้ผ่านอำเภอสิงหนคร บังเอิญเจอ 2 ข้างทาง เต็มไปด้วยดอกปอเทืองเหลืองอร่าม จอดสิค่ะจอด ร้อนแค่ไหนก็ลงไปถ่ายรูป ^^,

ให้ดูว่าดินแห้งเริ่มแตก (เนื้อสาว) ละ

มุมนี้ดูสวย สดใส เขียวเหลือง 🙂

แล้วไปต่อที่ ถนนนางงาม ในตัวเมืองสงขลา เพื่อตามหารูปภาพบนผนังตึกเก่าที่คล้ายกับที่ปีนัง มาเลเซีย …

ถนนนางงามหรือชื่อเดิมถนนเก้าห้อง เป็นถนนย่านการค้า ห้องแถวไม้เก่า ตึกคลาสสิคสไตล์ชิโนโปรตุกีส แต่… สายไฟนี่สิค่ะ จะรุงรังไปไหน จะมีแนวโน้มเก็บลงพื้นดินบ้างมั้ยนะ ^_^ และที่นี่มีร้านอาหารคาวหวานท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อเป็นเอกลักษณ์ของถนนนางงาม ขนมแบบโบราณที่หากินยากในสมัยนี้ และของฝากพื้นเมือง … ทั้งที่เรายังอิ่มแต่ก็ต้องอดทนกิน ไหนๆ ก็มาถึงถิ่นแล้ว ขอเลือกกินไอติมโอ่ง แบบเบาๆ เนอะ ไม่หนักมาก พอให้รู้ว่ามากิน >w< ( รีบกินลืมถ่ายรูปอีกละ อิอิ )

ตึกนี้สงสัยอาจจะเป็นผนังเป้าหมายต่อไปที่จะโดนระบายสีวาดรูป ^_^

เจอแว้ววววว มีแค่นี้ละ ผนังตึกเก่าที่วาดรูปสภากาแฟนี้ไว้ 🙂

มุมมหาชน ที่ทุกคนจะต้องถ่ายรูป

เฮ้ ! อินตามลุงทั้งสองข้างหลัง

จบทริป 2 วัน แบบไม่รีบ มีเวลาเหลือๆ แต่ให้กินอีกคงไม่ไหวนะฮะ ท้องจิแตกแล้ว ฮาๆ

หาเวลา โอกาส ไปชาร์ตแบตให้ตัวเองดูนะคะ ทุกวันนี้มีทางเลือกในการเดินทางที่ถูกลง เลือกให้เหมาะตามสภาพตัวเองที่ไหว … ชีวิตของเราอยู่ที่เราเลือก …

——————————————————————–

Fanpage เที่ยวแล้วยัง กับ มิตรภาพ We like journey :www.facebook.com/welikejourney

เรื่องโดย ลิงเปิ้ล : lingple07@gmail.com

IG : lingple


Posted

in

by

Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *